“ญี่ปุ่น” เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่ไม่ได้มีดีแค่อาหารอร่อย แต่ยังรายล้อมไปด้วยวัฒนธรรมที่น่าค้นหาอีกมากมาย ซึ่งหนึ่งในนั้น คือ การเข้าออนเซ็นเพื่อพักผ่อนร่างกายและจิตใจให้หายเหนื่อยล้า พร้อมฟื้นฟูความสุขอีกครั้งด้วยแร่ธาตุพิเศษจากธรรมชาติที่มีเฉพาะที่ญี่ปุ่นที่เดียว อย่างไรก็ดี เมื่อเวลาผ่านไปจนเกิดโรคร้ายอย่าง COVID-19 ที่ทำให้ญี่ปุ่นต้องปิดประเทศ ใครหลายคนก็คงคิดถึงบรรยากาศการเข้าออนเซ็นอันแสนผ่อนคลายอยู่ไม่น้อย สำหรับใครที่รู้สึกเช่นเดียวกันอยู่นี้ และกำลังมองหาออนเซ็นกรุงเทพฯ เพื่อเติมความสุขแห่งการพักผ่อนให้ชีวิตอีกครั้งโดยไม่ต้องบินไปญี่ปุ่น วันนี้ลองมาทำความรู้จักกับ 3 ออนเซ็นกรุงเทพฯ ชื่อดังที่นำมาฝากในวันนี้กัน รับรองพักผ่อนแสนสุขใจไม่แพ้ญี่ปุ่นแน่นอน!
Let’s Relax Onsen and Spa Thonglor
หลายคนอาจเข้าใจว่า Let’s Relax มาพร้อมกับบริการสปาและการนวดแขนงต่าง ๆ เท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว Let’s Relax Onsen and Spa ที่สาขาทองหล่อยังเปิดให้บริการออนเซ็นกรุงเทพฯ ที่ให้คุณภาพและความรู้สึกเช่นเดียวกับญี่ปุ่น ซึ่งเปิดให้ทุกคนได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศพิเศษได้มากถึง 5 บ่อเลยทีเดียว โดย Let’s Relax Onsen and Spa สาขาทองหล่อเป็นออนเซ็นกรุงเทพฯ ที่ตั้งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลในโรงแรม Grande Centre Point ในทองหล่อซอย 55 นี่เอง ที่สำคัญ มีโปรแกรมการผ่อนคลายให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นนวด สปา และอื่น ๆ อีกมากมายอีกด้วย
Yunomori Onsen & Spa
Yunomori Onsen & Spa เป็นอีกหนึ่งออนเซ็นกรุงเทพฯ แบบดั้งเดิม ถือได้ว่าเป็นออนเซ็นแท้จากญี่ปุ่นที่มาเปิดให้บริการเป็นที่แรกในไทยเลยทีเดียว โดยทางออนเซ็นจะมีให้เลือกอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นกลางแจ้งที่รายล้อมไปด้วยสวนสวย ออนเซ็นบรรยากาศส่วนตัว และแบบอื่น ๆ ที่ต้องการ นอกจากนี้ ทาง Yunomori Onsen & Spa ยังมาพร้อมกับโปรแกรมการผ่อนคลายแบบครบจบในที่เดียว ไม่ว่าจะเป็นนวดไทย นวดกดจุด สปาและทุกแขนงที่ต้องการ ถือเป็นอีกหนึ่งออนเซ็นใจกลางกรุงเทพฯ ในซอยสุขุมวิท 26 ที่ไม่ควรพลาดเลยทีเดียว
Kashikiri Onsen and Spa
สำหรับใครที่กำลังมองหาออนเซ็นกรุงเทพฯ แบบส่วนตัว และไม่อยากเปลื้องผ้าต่อหน้าใครก็ตาม Kashikiri Onsen and Spa ถือเป็นอีกหนึ่งผู้ให้บริการออนเซ็นที่ไม่ควรมองข้ามเลยทีเดียว โดยทาง Kashikiri Onsen and Spa มาพร้อมกับผงแร่ออนเซ็นแท้จากประเทศญี่ปุ่น และน้ำแร่พิเศษที่ได้ออกแบบสูตรมาเพื่อการดูแลผิวให้กลับมามีสุขภาพดีได้ยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ทาง Kashikiri Onsen and Spa ยังมาพร้อมกับนวัตกรรมโซดาออนเซ็นเพียงหนึ่งเดียวที่ช่วยดูแลสุขภาพผิวอย่างล้ำลึกอีกด้วย ที่สำคัญ เดินทางได้อย่างสะดวก อยู่แค่เพียงสุขุมวิท 101/1 นี้เองเท่านั้น
จบลงไปแล้วกับ 3 ออนเซ็นกรุงเทพฯ ที่คนคิดถึงการผ่อนคลายสไตล์ญี่ปุ่นไม่ควรมองข้าม หากสนใจที่ไหน โปรแกรมการผ่อนคลายแบบใด อย่าลืมปักหมุดไปยังร้านที่สนใจเพื่อรับโปรโมชันพิเศษได้เลย